ก้าวต่อไปของ AI ในองค์กร: Sertis แชร์มุมมองจากเวที AWS Agentic AI: The Next Frontier for Automation 2025
- Sertis

- 5 วันที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา งาน AWS Agentic AI: The Next Frontier for Automation ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากหลายองค์กรร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ “อนาคตของ AI ที่สามารถคิดและลงมือทำได้เอง” หรือที่เรียกว่า Agentic AI ซึ่งกำลังกลายเป็นแนวโน้มสำคัญของ AI Transformation ในองค์กร
คุณปฏิญญา สัจจานันท์ Lead UX/UI Designer จาก Sertis ได้ร่วมบรรยายในหัวข้อ “From Search to Action – Empowering Enterprises” ถ่ายทอดประสบการณ์จากการพัฒนาแพลตฟอร์ม KMAI + Private LLM ซึ่งเป็นระบบ AI สำหรับองค์กร (Enterprise AI) ที่ช่วยให้ข้อมูลภายในถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ และกำลังต่อยอดไปสู่ยุคของ Agentic AI
เมื่อ AI ก้าวจาก “คำตอบ” สู่ “การลงมือทำ”
หากมองย้อนไปช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Generative AI ช่วยให้คนทำงานเข้าถึงข้อมูลและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ง่ายขึ้น แต่ Agentic AI คือก้าวถัดไปของการใช้งาน Automation + AI ในองค์กร ระบบที่ไม่เพียงตอบคำถาม แต่สามารถ “วิเคราะห์สถานการณ์ เลือกเครื่องมือ และลงมือทำงานร่วมกับมนุษย์ได้จริง”
ข้อมูลจาก McKinsey ปี 2025 ระบุว่า
88% ขององค์กรทั่วโลก ใช้ AI ในการทำงานแล้ว
79% นำ Generative AI มาใช้ในระดับที่สร้างผลลัพธ์จริง เช่น ลดเวลาการทำงานจาก 3 วันเหลือเพียง 6 ชั่วโมง และลดข้อผิดพลาดได้กว่า 80%
แนวโน้มนี้สะท้อนว่าองค์กรกำลังเปลี่ยนจากการทดลองใช้ AI ไปสู่การ “บูรณาการจริง” ในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ IT, HR ไปจนถึงงานบริการลูกค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Digital Transformation

จาก KMAI + Private LLM สู่ระบบที่เข้าใจและลงมือทำได้เอง
KMAI ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งข้อมูลกลางขององค์กร (Single Source of Truth) เพื่อให้พนักงานค้นหาข้อมูลด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น “ขอคู่มือ onboarding ล่าสุด” หรือ “นโยบายลาพักร้อนปีนี้”
Private LLM ประมวลผลข้อมูลทั้งหมดภายในระบบปิดขององค์กร ทั้ง on-premise หรือ private cloud เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวตามมาตรฐาน Enterprise Data Security
ระบบทั้งสองช่วยให้องค์กรก้าวจาก “การค้นหา” ไปสู่ การนำข้อมูลไปสู่การลงมือทำจริง เช่น การจัดการ IT Ticket, การ Onboard พนักงานใหม่, การสร้างรายงานอัตโนมัติ และการบริหารข้อมูลความรู้ภายใน (Knowledge Management AI)
ตัวอย่างจากองค์กรจริง
หนึ่งในเคสนี้คือตัวอย่างของการใช้ Enterprise AI, Private LLM และ Knowledge Automation เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่วัดได้จริง คือ ธนาคารชั้นนำของไทย ได้นำ KMAI ไปใช้งานกับพนักงานกว่า 1,500 คน เพื่อรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์และกฎระเบียบไว้ในจุดเดียว ส่งผลให้สามารถเพิ่มอัตราการปิดการขายได้กว่า 12% ตอบคำถามลูกค้าได้เร็วและแม่นยำขึ้น และทำให้การเข้าถึงข้อมูลภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

มุ่งสู่อนาคตของการทำงานร่วมกันระหว่างคนและ AI
KMAI + Private LLM คือรากฐานที่ Sertis กำลังต่อยอดสู่ Agentic AI Platform สำหรับองค์กร ระบบที่เข้าใจบริบทขององค์กรและช่วยให้การตัดสินใจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น รองรับการใช้งานในทีมต่าง ๆ เช่น IT, HR, Operations, Sales, Compliance และ Customer Support
ในอนาคต Sertis มุ่งพัฒนาระบบนี้ให้รองรับงานในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ “คนและ AI ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นจริง” ซึ่งเป็นหัวใจของการก้าวสู่ยุค Intelligent Enterprise
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI สำหรับองค์กรของ Sertis ได้ที่ 👉 https://bit.ly/4nOxSha


