top of page
รูปภาพนักเขียนAnantaya Pornwichianwong

5 แนวทางการใช้ AI ในธุรกิจ ในปี 2024




ต้อนรับปี 2024 ด้วยแนวทางการประยุกต์ใช้เอไอ ที่จะสร้างประโยชน์ที่มากกว่าเดิมให้ธุรกิจ


ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และอิทธิพลของเอไอที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้เอไอได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจ


เอไอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติงานในทุกอุตสาหกรรม หลากหลายธุรกิจก็หันมาใช้เอไอทำงานและช่วยเสริมประสิทธิภาพในส่วนต่าง ๆ ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อเอไอพัฒนาไปมากขึ้น ธุรกิจเองก็ควรเดินหน้าประยุกต์ใช้เอไออย่างกว้างขวาง เพื่อก้าวให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลง


เริ่มต้นปีแบบนี้ เซอร์ทิสชวนมาดู 5 แนวทางการประยุกต์ใช้เอไอที่ธุรกิจควรทำในปี 2024 นี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และสร้างผลกำไรที่มากกว่าเดิมให้ธุรกิจได้ในทุก ๆ ด้าน





1.ใช้ AI เพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น


ข้อมูลคือหัวใจของการทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด การตัดสินใจจากข้อมูลจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นในปี 2024 นี้ ธุรกิจควรหันมาใช้เอไอในการช่วยเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากที่กระจัดกระจายในธุรกิจ เพื่อให้ได้ Insight ที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างแม่นยำขึ้น 


โดยปกติแล้วการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้แรงงานคนหรือเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับข้อมูลจำนวนมหาศาล เอไอจึงเป็นคำตอบสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มคุณภาพให้ทุกการตัดสินใจในธุรกิจ ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ จัดการคลังสินค้า ไปจนถึงการทำการตลาดให้ธุรกิจ ในปี 2024 นี้ ธุรกิจควรหันมาใช้เอไอในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเข้มข้นมากขึ้น เพื่อพัฒนาการตัดสินใจให้แม่นยำ ซึ่งจะสร้างผลกำไรให้ธุรกิจได้อย่างแท้จริง


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตัดสินใจที่แม่นยำด้วยโซลูชัน AI Demand Forecasting ได้ที่บทความ ยกระดับ Demand Forecasting ด้วย AI ได้อย่างไรบ้าง?





2.ใช้ AI เพื่อเปลี่ยนการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติ


เทรนด์ของระบบอัตโนมัติ (Automation) มีอิทธิพลอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยสามารถช่วยทุ่นแรง เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้เป็นอย่างดี ในปี 2024 นี้ ธุรกิจควรมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเอไอในการเปลี่ยนการทำงานให้เป็นระบบอัตโนมัติ โดยใช้เทคโนโลยี อาทิ Robotic Process Automation (RPA) หรือที่เรียกว่าการใช้บอทในการทำงานประเภทงานรูทีนต่าง ๆ ซึ่ง RPA ที่ประยุกต์ใช้เอไอเข้าไปด้วยนั้นจะสามารถทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ช่วยลดต้นทุนและทุ่นแรงพนักงานได้มากขึ้น เพื่อให้มีเวลาสำหรับงานที่สำคัญและสร้างคุณค่าได้มากกว่า


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์องค์กรด้วยระบบอัตโนมัติได้ที่บทความ ปรับองค์กร เปลี่ยนกลยุทธ์ สู่ระบบ Automation





3.ใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า


เอไอคือเครื่องมือสำคัญที่ใช้สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และเหนือระดับมากขึ้นให้กับลูกค้าได้ ซึ่งในปี 2024 นี้ ธุรกิจควรหันมาประยุกต์ใช้เครื่องมือเอไอต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น 


ไม่ว่าจะเป็น การใช้ Generative AI สร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าและสร้างแคมเปญการตลาดแบบ Personalized หรือการพัฒนาผู้ช่วยเสมือนจริง (Virtual Assistants) และแชทบอทที่ทำงานได้ชาญฉลาดและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งการประยุกต์ใช้เอไอในงานด้านการบริการลูกค้ายังสามารถช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดระบบการทำงานให้เป็นระเบียบ ทำให้จัดการได้ง่ายในส่วนของหลังบ้าน และสร้างความประทับใจในส่วนของการดูแลลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน 


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำการตลาดแบบ Personalization ได้ที่บทความ Personalization Marketing กลยุทธ์ซื้อใจลูกค้าด้วยความใส่ใจ





4.ใช้ AI เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น


ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนคือประเด็นหลักที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญในปี 2024 ซึ่งเทคโนโลยีเอไอก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ความยั่งยืนได้ดียิ่งขึ้น อาทิ การใช้เอไอมาช่วยดูแลจัดการระบบ Supply Chain คาดการณ์ยอดขาย จัดการสต๊อกสินค้า ควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิต และวางแผนเส้นทางการขนส่ง ช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร ลดขยะจากสินค้าเหลือทิ้งและสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ช่วยลดมลพิษจากการขนส่ง ไปจนถึงการใช้เอไอมาช่วยบริหารจัดการพลังงาน และลดคาร์บอนฟุตพรินท์ได้


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการใช้ข้อมูลและเอไอ ประหยัดพลังงานให้องค์กรได้ที่บทความ ใช้ Data ประหยัดพลังงานให้องค์กรได้อย่างไรบ้าง?





5.ใช้ AI เพื่อจัดการระบบ Supply Chain


การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของกระแสความนิยม สถานการณ์ และความต้องการในปัจจุบันนั้น ทำให้ระบบ Supply Chain ของธุรกิจต่าง ๆ ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที เอไอถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ระบบ Supply Chain ได้ 


ด้วยความสามารถในการจัดการดูแลระบบ Supply Chain ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์อย่างรวดเร็ว และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลซึ่งนำไปประยุกต์เข้ากับการจัดการระบบ Supply Chain ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การคาดการณ์ความต้องการ การจัดการต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนในขั้นตอนต่าง ๆ เพิ่มจำนวนการผลิตในต้นทุนที่ต่ำลง จัดการคลังสินค้า ไปจนถึงการขนส่ง โดยรวมแล้ว เอไอสามารถเข้ามาเพิ่มความยืดหยุ่นและแม่นยำในขั้นตอนต่าง ๆ ให้ตอบสนองต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการประยุกต์ใช้เอไอกับระบบ Supply Chain ได้ที่บทความ "เอไอ" กุญแจสำคัญสู่การพัฒนาระบบ Supply Chain


เซอร์ทิสคือผู้ให้บริการโซลูชันด้านเอไอและข้อมูลชั้นนำ ที่พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมพัฒนาโซลูชันเอไอที่ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรมหลัก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมค้าปลีก การผลิต พลังงาน หรือการเงิน 


โดยเราสามารถพัฒนาที่โซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความเร็ว เพิ่มความแม่นยำ ไปจนถึงสร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น เซอร์ทิสพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้ธุรกิจและพาธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด


เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันจากเซอร์ทิสได้ที่: https://www.sertiscorp.com/solutions

Comentários


bottom of page