เทคโนโลยีเอไอกำลังเข้ามามีบทบาทและความสำคัญในการพัฒนาและเพิ่มความสามารถให้กับทุกธุรกิจ อย่างบทความก่อนๆ ที่ผมได้กล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา และการเกษตร ซึ่งเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่ผมยกมาเท่านั้น ในบทความนี้ผมจะกล่าวถึงการนำเอไอมาใช้กับแวดวงที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจและมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาล นั่นคือวงการกีฬา
ความสามารถของเอไอจะสร้างประโยชน์และประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับทั้งนักกีฬา ผู้ชม ผู้ฝึกสอน ผู้บริหาร ผู้วิเคราะห์เกมการแข่งขัน รวมไปถึงผู้สนับสนุนหรือสปอนเซอร์ของทีมนักกีฬา ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมวงการกีฬาให้มีความก้าวหน้าไปอีกระดับ
เราสามารถนำเอไอมาประยุกต์ใช้ในวงการกีฬาหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การนำมาช่วยในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา โดยเอไอจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพเคลื่อนไหว เมื่อเรานำข้อมูลนี้มาใช้ร่วมกับข้อมูลตัวเลขสถิติอื่นๆ ก็จะทำให้เราวิเคราะห์และประเมินความสามารถของนักกีฬา ได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น เช่น การนำเอไอมาใช้ในกีฬาปิงปอง โดยการวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบ ทิศทาง องศา ความเร็วของลูกปิงปอง รูปแบบการเคลื่อนที่และลักษณะท่าทางการตีของนักกีฬา หรือในกีฬาว่ายน้ำ ไอเอก็ถูกนำมาช่วยวิเคราะห์ท่าทางการเคลื่อนไหวของร่างกาย รวมถึงตัวแปรอื่นๆ ของนักกีฬาและคู่แข่งได้ด้วยเช่นกัน จากข้อมูลสถิติที่จดบันทึกและข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้นักกีฬาและผู้ฝึกสอน สามารถประเมินความสามารถของคู่แข่ง และหาแนวทางในการพัฒนาทักษะความสามารถของตัวเองได้อย่างตรงจุด
นอกจากนี้เอไอยังสามารถนำมาใช้ในการสร้างประสบการณ์การรับชมกีฬารูปแบบใหม่ให้กับผู้ชม เช่น การแข่งขันโอลิมปิกส์ฤดูร้อนที่จะจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม ปี 2020 ที่จะถึงนี้ จะมีการนำเอไอมาใช้ในการวิเคราะห์การแข่งขันกีฬาประเภทลานและลู่วิ่ง ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถทราบถึงสมรรถนะของนักกีฬาแต่ละคน รวมถึงทิศทางและแนวโน้มของผลการแข่งขัน โดยแสดงผลความเร็วของนักกีฬาผู้แข่งที่นำอยู่ ระยะทางปัจจุบัน และระยะทางที่เหลือ บนหน้าจอแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมกีฬาได้มากขึ้น
ตลอดจน การคาดการณ์ผลการแข่งขันก็ทำให้การรับชมกีฬาน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้มีการนำเอไอมาใช้คาดการณ์ผลฟุตบอลโลกปี 2018 โดยนำข้อมูลที่เป็นตัวแปรสำคัญในการวิเคราะห์ เช่น องค์ประกอบของผู้เล่นภายในทีม ข้อมูลของโค้ช การจัดอันดับทีมของ FIFA คุณลักษณะของทีม อัตราการแพ้ชนะของทีม เป็นต้น ซึ่งแม้ว่าผลการคาดการณ์ของเอไอในครั้งนี้จะยังมีความผิดพลาด เนื่องจากข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์อาจยังไม่ครบถ้วนเพียงพอ แต่หากสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และดึงเอาข้อมูลมาใช้ให้ครบถ้วนมากขึ้น ผลการคาดการณ์ก็จะมีความแม่นยำมากขึ้นเช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งประสิทธิภาพของเอไอ คือ ช่วยประเมินและวัดผลสปอนเซอร์ทางการกีฬาที่ปรากฏบนสื่อโทรทัศน์ และโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยการใช้แมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ในการตรวจจับ (detect) โลโก้ของสปอนเซอร์ เพื่อระบุตำแหน่งและคำนวณแบรนด์โพสิชั่นบนหน้าจอ พร้อมทั้งวัดปัจจัยที่ส่งผลต่อการโปรโมทสปอนเซอร์แต่ละรายแบบเรียลไทม์ เช่น ระยะเวลาที่ปรากฏบนหน้าจอ ขนาดและความชัดของภาพ เพื่อให้สปอนเซอร์สามารถติดตามข้อมูลการปรากฏของโลโก้ขณะถ่ายทอดการแข่งขันกีฬา และสามารถปรับเปลี่ยนป้ายโฆษณาบนทุกแพลตฟอร์มได้อย่างเหมาะสมโดยทันที ทำให้เกิดความโปร่งใสในการประเมินผลการลงทุนด้านสปอนเซอร์อีกด้วย
แม้ว่าเทคโนโลยีเอไอจะทำประโยชน์ให้กับวงการกีฬาอย่างมาก แต่ ‘คน’ เป็นคนป้อนข้อมูลให้เอไอนำไปวิเคราะห์ ผมมองว่าการนำเอไอมาใช้ในวงการกีฬาจะต้องมีการศึกษาและเก็บข้อมูลให้ละเอียดและรอบคอบ แม้แต่สภาพเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์ ความเข้ากันของนักกีฬาภายในทีม การเปลี่ยนผู้คุมทีม ก็เป็นปัจจัยที่ควรคำนึงถึงทั้งสิ้น เพื่อให้เอไอมีความแม่นยำ ส่งเสริมความน่าติดตามในการรับชม ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของวงการกีฬา และสามารถส่งเสริมเศรษฐกิจให้กับแต่ละประเทศได้มากยิ่งขึ้น