top of page
Writer's pictureSertis

ถ้าไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุในความท้าทายนี้ AI ช่วยอะไรได้บ้าง



ทั่วโลกต่างกำลังเผชิญกับสถิติจำนวนประชากรที่เปลี่ยนไป โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดว่า จะมีจำนวนผู้สูงอายุทั่วโลก (60 ปีขึ้นไป) เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในปี 2050 และเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในปี 2100 เช่นเดียวกันกับประเทศไทยที่มีประชากรผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ จากแนวโน้มการมีบุตรลดลง แน่นอนว่าเรากำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุและอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในหลายด้าน จากสถิตินี้เองที่บางคนมองว่าเป็นวิกฤต แต่บางคนก็จะฉวยจังหวะนี้ทำให้เป็นโอกาส ซึ่งเอไอจะเข้ามาช่วยเตรียมความพร้อมต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้

การเพิ่มขึ้นของหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

จากแนวโน้มการขาดแคลนแรงงานที่จะเกิดขึ้นในสังคมผู้สูงอายุ และการจำกัดจำนวนแรงงานและการย้ายถิ่นฐานจากชาวต่างชาติ ผมคิดว่าสเต็ปแรกที่เทคโนโลยีจะสามารถทำได้คือ การทำระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation) และหุ่นยนต์ โดยเริ่มจากอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าต่าง ๆ เช่น โรงงานรถยนต์ โรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่ม โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และอาจมีการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไปใช้กับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การขนส่ง การสื่อสาร การบริการ เป็นลำดับต่อไป ซึ่งไม่เพียงแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่หันมาลงทุนสร้างระบบอัตโนมัตินี้ แต่องค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กก็เริ่มเห็นความสำคัญเช่นกัน เพื่อยังคงสถานะความเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง

ยกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นสังคมผู้สูงอายุ และเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอยู่ตลอด มีการทำ “self-checkout” ตามร้านสะดวกซื้อให้ลูกค้าจ่ายเงินชำระค่าสินค้าด้วยตัวเอง รวมทั้งร้านอาหารชั้นนำต่าง ๆ ก็มีการติดตั้งสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ลูกค้าสั่งอาหารเองโดยไม่ต้องรอพนักงานมารับออเดอร์ นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างที่เราเคยเห็นแล้วอีกมากมายเช่น robot chefs และ หุ่นยนต์บริการให้ข้อมูลในโรงแรมบางแห่ง

ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้กับธุรกิจเพื่อแก้ปัญหาการขาดแรงงาน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยควบคุมคุณภาพและลดต้นทุนด้านการผลิต ส่วนมนุษย์ก็จะได้ใช้เวลาไปกับงานที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะทางเช่น ความคิดสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเพิ่มทักษะของแรงงานมนุษย์ที่มีอย่างจำกัด

การเพิ่มทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับแรงงานมนุษย์ก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเช่นกัน รวมทั้งหากจำนวนคนทำงานน้อยลง ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะต้องเพิ่มทักษะให้รอบด้าน เพื่อสามารถทำงานได้หลากหลาย (Muti-Tasking) ไม่แน่ในอนาคตอันใกล้ สถาบันการศึกษาขั้นพื้นฐานอาจจะเพิ่มวิชาบังคับที่เกี่ยวข้องกับทักษะด้านเทคโนโลยีที่จำเป็น เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สู่ตลาดการทำงานในรูปแบบใหม่

ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าเราจำเป็นต้องมีแรงงานต่างชาติที่ถูกกฎหมาย แต่ติดปัญหาเรื่องภาษาเพื่อการสื่อสารและสอนงาน เอไอก็จะเข้ามาช่วยได้โดยการแปลภาษาและสอนวัฒนธรรมให้คนกลุ่มนั้น แต่มนุษย์เองก็ควรปรับตัว ยืดหยุ่น และเปิดรับการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นในโลกอนาคตด้วย

เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ไม่เพียงแต่ในด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในการช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ เช่น เทคโนโลยี Computer Vision และอุปกรณ์ IoT จะเข้ามาช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวของร่างกายและวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ เพื่อแนะนำและกระตุ้นการทำกิจวัตรประจำวันที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งการออกกำลังกาย การแจ้งเตือนการกินยา แนะนำเมนูอาหารที่ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีบางองค์กรพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อดูแลและเป็นเพื่อนแก้เหงาให้กับผู้สูงอายุ แน่นอนว่าหุ่นยนต์ไม่มีความรู้สึก จึงเหมาะกับการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการจัดการอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม

สุดท้ายนี้ เป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงาน ทั้งผู้ประกอบการที่ต้องวางแผนรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น บริษัทที่ให้คำปรึกษาทางด้านเทคโนโลยีควรทำการบ้านนำเสนอโซลูชั่นให้กับหน่วยงานต่าง ๆ และภาครัฐที่ต้องพิจารณานโยบายขยายระยะเวลาการจ้างงานและนโยบายอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อเตรียมพร้อมหากประเทศไทยต้องเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุจริง ๆ



コメント


bottom of page